ด้าน5G/////////////////////โลกในการทำธุรกิจทุกวันนี้หมุนไปเร็วมาก ส่วนหนึ่งไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ มีส่วนอย่างมากในการขับเคลื่อนธุรกิจ พร้อมทั้งยังเป็นตัวเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคด้วย ทำให้ธุรกิจก็ต้องปรับเปลี่ยนตาม ดังนั้นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ก็เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้องค์กรธุรกิจได้ อีกทั้งยังช่วยให้สะดวก รวดเร็ว ง่ายต่อการบริหารจัดการ ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้วงกว้าง เรียกได้ว่านี่คือคืออาวุธที่สำคัญในการทำธุรกิจในยุคนี้ ใครใช้เทคโนโลยีเป็น หรือเข้าถึงเทคโนโลยีได้มาก คนนั้นได้เปรียบแน่นอน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการหลายราย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเร่งเข้ามาสนับสนุนธุรกิจให้หันมาใช้นวัตกรรม ใช้เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA คือหนึ่งในหน่วยงานที่ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการให้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำธุรกิจ โดยได้ผนึกพันธมิตรเดินหน้าเพิ่มองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับ 5G อย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการโครงการพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นเทคโนโลยีเชิงลึกด้าน 5 G (Deep Tech in 5G Development Poject ) เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม และใช้ประโยชน์สูงสุดในภาคธุรกิจที่จะได้รับจาก5G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ล่าสุดได้ดึงผู้ประกอบการมาเข้าร่วมโครงการ อบรม ให้ความรู้ ซึ่งวันนี้จะพาไปดู 5 ผู้ประกอบการที่ผ่านโครงการนี้ และเป็นองค์กรที่มีความพร้อมด้านการใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีทั้งนี้จะพาไปเปิดใจกับผู้บริหารทั้ง 5 บริษัทที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นเทคโนโลยีเชิงลึกด้าน 5 G ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่มีการนำความรู้ไปต่อยอดได้จริง เริ่มกันที่ผู้บริหารท่านแรก “ดร.สกล กงแก้ว” CEO บริษัทแอคทีฟ อินเทลลิเจนซ์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเกิดจากการวมตัวของวิศวกรด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อพัฒนาเทคนิคด้าน IOT ที่ยกเอาทุกโหนดมานำเสนอผ่านหน้าจอเดียว ลูกค้าส่วนใหญ่คือองค์กร บริษัทที่ต้องการนำระบบ IOT ไปใช้ลดต้นทุนในการดำเนินงาน หรือนำไปประยุกต์กับผลิตภัณฑ์เดิมทำให้เกิดสินค้านวัตกรรมใหม่ส่วนการเข้าร่วมโครงการกับ NIA เพราะว่าเป็นการอัพเดทความรู้เรื่อง 5 G ที่กำลังจะมาในเร็ว ๆนี้ เพื่อนำความรู้มาพัฒนาธุรกิจให้ไปได้ในยุคดิจิทัล เพราะส่วนตัวเชื่อว่าโลกเปลี่ยนไปธุรกิจต้องเปลี่ยนตาม สิ่งหนึ่งที่ได้จากการเข้าความโครงการนอกจากความรู้แล้ว ยังได้มาพบเจอกับนักธุรกิจจำนวนมากที่มีแนวธุรกิจเดียวกัน เกิดการแลกเปลี่ยนต่อยอดในธุรกิจด้าน “ธีระเดช กุศลธรรมรัตน์” ผู้บริหาร บริษัทเวริลี วิชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจระบบอ่านหมายเลขทะเบียนรถ และอ่านเลขตู้คอนเทนเนอร์อัตโนมัติโดยเทคโนโลยี AI บอกว่า ความรู้ทางด้าน 5 G เป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ กับบริษัทเพราะหากได้ 5 G เข้ามาจะช่วยในเรื่องของการลดต้นทุนในการติดตั้งฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ที่อยู่หน้าไซต์งานจำนวนมาก สามารถบริหารจัดการได้ที่ส่วนกลางแบบรวดเร็ว ประหยัดต้นทุนได้ ทำให้เรียลไทม์ สะดวก รวดเร็ว ขึ้นด้วย ที่สำคัญเตรียมตัวขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศด้วยจึงเข้าร่วมโครงการกับ NIA เพื่อเสริมความรู้ก่อนขยายธุรกิจจริง“สิ่งที่เราตัดสินใจเข้าร่วมโครงการเพราะอยากรู้ว่า 5G มีหลักการทำงานอย่างไร มีอะไรดีขึ้นกว่า 4 G เราจะนำความรู้มาต่อยอดงานของบริษัท ผมเชื่อว่ามันเป็นประโยชน์อย่างมากกับธุรกิจเพราะทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไป ดังนั้นธุรกิจต้องพร้อม ทำการบ้านก่อนที่ 5 G จะมาในเร็วๆ นี้ เชื่อว่าใครพร้อม ใช้ประโยชน์เป็นจะทำให้แข่งขันได้ ” ธีระเดช กล่าวต่อมาเป็นมุมมองจาก “ศรายุทธ์ ศุภโชคภากร” Managing Director บริษัทบลูชาร์ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทคือ toch company ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน software development ลูกคือผู้ให้บริการมือถือ และอินเทอร์เน็ต และ โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มพลังงาน ได้กล่าวเสริมว่า 5 G จะช่วยให้สามารถบริหารจัดการกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมมากขึ้น มินิเตอร์ได้ง่ายขึ้น IOT แพลตฟอร์มสามารถดึงข้อมูลอื่น ๆ จากหลายที่มารวมไว้ที่ส่วนกลางได้ สามารถวิเคราะห์ พยากรณ์กระบวนการผลิตต่าง ๆ ล่วงหน้าได้ อย่างเช่นประเมินความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต ดังนั้น 5 G มีส่วนสำคัญมาก ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจทำงานง่ายขึ้น จึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการกับ NIAส่วน “ดร.คุณานนต์ กิตติพุฒิ” ผู้บริหาร บริษัทเรบุส จำกัด ให้ข้อมูลว่า บริษัทคือผู้ให้บริการฮาร์ดแวร์ เทคสตาร์ทอัพ สาเหตุที่มาเข้าร่วมโครงการเพราะว่าต้องการหาแนวร่วมลงทุนเครื่องตรวจจับโควิด-19 แบบเรียลไทม์ รวมถึงการพัฒนาเลเซอร์ห้ามเลือด และเลเซอร์ให้ยาชา ต้องการความรู้โซลูชั่นใหม่ ๆเพิ่ม ด้วย และอยากนำความรู้ดเรื่อง 5 G ไปพัฒนาธุรกิจให้เรียลไทม์ขึ้นปิดท้ายกันที่ “ อนวัช โชคดีเป็นเลิศ” ผู้บริหารจากบริษัทบิลค์ วันกรุ๊ป จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทให้บริการซอฟต์แวร์ในงานก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงบริการแบบ B2B ด้วย โดยใช้โปรแกรมที่เรียกว่า Pojjaman2 ในการบริหารจัดการ ข้อดีของการมาเติมความรู้ 5G กับโครงการของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) คือ ช่วยหน้าง่ายในการอัพเดทความคืบหน้าได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเดินไปตรวจงานที่หน้างานสารมารถใช้ 5 G ในการตรวจงานผ่านวิดีโอคอลได้เลย รวมถึงใช้ในการเก็บข้อมูลออนไลน์ได้ บริหารต้นทุนได้ บัญชี การเงิน เป็นต้น…………………………
5 ผู้บริหารสตาร์ทอัพ ที่ ‘NIA’ ปลุกปั้นพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นเทคโนโลยีเชิงลึก
By
Posted on