จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กล่าวระหว่างเป็นประธานประชุมหน่วยราชการ ตำหนิคลิป “ลำไย ไหทองคำ” ลูกทุ่งสาวชื่อดังว่าเต้นจนเกือบจะโชว์ของสงวน ซึ่งทางด้าน นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างความครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ที่ออกมาติงรุนแรงไปถึงค่ายเพลงว่าคำนึงแต่หาผลประโยชน์ ชื่อที่ตั้งให้นักร้องสาวก็ส่อไปทางเซ็กซ์
” เรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัวของนักร้องในปัจจุบัน รู้สึกสงสารผู้หญิงโดยเฉพาะบรรดานักร้อง นักแสดงที่ต้องตกเป็นเหยื่อการค้า โดยนักธุรกิจหรือนักลงทุนเอาผู้หญิงมาเป็นสื่อในเรื่องเซ็กซ์ ผู้ลงทุนนึกถึงแต่เรื่องผลประโยชน์ เป็นความเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัวของผู้ประกอบธุรกิจ อย่างกรณีของ “ลำไย ไหทองคำ” น้องเป็นคนอีสานซึ่งชื่อ “ลำไย” นั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะคนไทยบางคนโดยเฉพาะในภาคอีสานก็ตั้งชื่อตามผลไม้ ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่นามสกุลที่ตั้งขึ้นมาว่า “ไหทองคำ” เป็นเรื่องที่ฟังแล้วจะรู้สึกหมิ่นเหม่มากในเรื่องของทางเพศหรืออวัยวะเพศ คนที่คิดชื่อและนามสกุล แม้เป็นเพียงแค่ในการแสดง แต่ไม่ควรนำเรื่องของเซ็กส์เป็นสื่อนำในการขายนักร้องคนดังกล่าว
แต่ทุกคนน่าจะมีวิจารณญานว่าอย่าทำลายสถาบันของผู้หญิงเลย ขอให้ขายความสามารถของนักร้องคนนั้นๆ ดีกว่า แม้แต่ฉายาตั้งกันแบบอุบาทว์มากอย่าง “จ๊ะ คันหู” ตั้งฉายากันทำไม สองแง่สามง่าม ถ้าจะเรียกหรือพูดกันในกลุ่มเป็นโจ๊กก็คงไม่มีใครว่า แต่เมื่อทำออกสื่อ ออกสู่สาธารณะแบบนี้น่าละอาย เป็นห่วงเยาวชน”
ล่าสุดนายประจักษ์ เนาวรัตน์ เจ้าของค่าย ‘ไหทองคำ เรคคอร์ด’ ได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวว่า “เด็กคนนี้เขาเป็นหางเครื่องมาตั้งแต่จบ ป.6 แล้ว เขามาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ โดยตนพาเอาเขามาในทางที่ถูกที่ควร ถ้าไม่ได้พาเข้ามาเต้นในทางที่ถูก อาจจะไม่ได้มาอยู่ในจุดนี้ก็ได้ อาจจะติดยา หรือเจอเพื่อนไม่ดีอาจจะไปเกเร”“ส่วนชื่อเขาผิดตรงไหน ‘ลำไย’ ล่อเหลี่ยมตรงไหน เป็นชื่อผลไม้ ‘ไหทองคำ’ ถ้ามองในมุมดี อย่ามองในมุมร้ายกับตนและน้องลำไยจนเกินไป ถ้ามองในมุมดีเป็นสิ่งมงคลด้วยซ้ำไป ‘ไห’ ไม่ใช่ไหปลาแดก ‘ไห’ ปลาแดกยังมีค่าสำหรับคนอีสาน ยังได้เอาปลาร้ามากิน ถามว่า ‘ลำไย ไหทองคำ’ ไม่ดีตรงไหน คือไปมองว่าไหเป็นสิ่งตรงนั้น ให้มองกลับว่าเป็นไหที่มีทรัพย์สิน ถ้าจะโฟกัสไปในสิ่งที่ไม่ดีก็หาประเด็นได้ ค้านในเรื่องการแสดงการเล่นก็ว่าเราแรงไป อันนี้เรายอมรับพร้อมแก้ไข”